แนะวิธีช่วยสัตว์เลี้ยงแสนรัก รับมือฝุ่นมลพิษ

ฝุ่น PM2.5 หมาแมวหน้าสั้นสูดพิษมากกว่า สัตวแพทย์แนะวิธีรับมือ

 

รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ได้แนะนำวิธีรับมือหมอกควันจากไฟป่าทางภาคเหนือไว้ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านำมาประยุกต์ใช้กับเหตุหมอกควันพิษในกรุงเทพได้เป็นอย่างดี ดังนี้ (1)

1) งดพาหมาออกไปนอกบ้าน หรือออกกำลังกลางแจ้งช่วงที่มีหมอกควัน เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวหมาและตัวคุณ

 

                          

 2) หากเลี้ยงหมาไว้นอกตัวบ้าน ควรจัดหาที่อยู่ซึ่งปลอดควันพิษ เช่น มีกรงที่อยู่มิดชิด หรือนำเข้ามาเลี้ยงในตัวบ้านตลอดเวลาที่มีหมอกควัน

 

                           

3) หมั่นเช็ดตัว แปรงขน เพื่อกำจัดเศษฝุ่นละอองควันพิษที่อาจติดตามตัว ทำเป็นประจำทุกวัน เน้นช่วงหน้า จมูก หู เป็นพิเศษ

 

                          

4) ภาชนะใส่น้ำและอาหารต้องทำความสะอาดแล้วคว่ำไว้ เพื่อมิให้เศษฝุ่นผงเขม่าสะสม

 

                          

5) ถูพื้น ทำความสะอาดกรง มุ้งลวดกันยุง เพื่อป้องกันการเป็นพิษและแพ้ในสัตว์

 

                           

6) อาบน้ำเป็นระยะๆ เพื่อทำความสะอาดทั้งตัว

 

                           

7) ที่นอน ฟูก ของเล่นสำหรับหมาต้องนำมาตบตีกำจัดฝุ่น ผง เขม่า ตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคทุกวัน

 

                           

8) ใช้น้ำฉีด พ่น รด ต้นไม้ ใบหญ้า เพื่อชะล้างผงฝุ่น ละออง เขม่าควันให้หลุดออก ควรทำทุกวัน เพื่อมิให้เปื้อนตัวหมาเมื่อมันเข้าไปเล่นหรือสัมผัส

 

                           

9) ถ้าควันหรือเขม่าเข้ามาฟุ้งในบ้านหรือบริเวณที่เลี้ยงหมา ควรใช้พัดลมเป่า โดยเปิดหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศ จนกว่าจะเบาบางลง

 

                           

10) หากหมาแพ้ควัน จนมีน้ำมูก น้ำตาไหล ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดแล้วใช้น้ำยาล้างตา และถ้ามีอาการตาแดงควรใช้ยาหยอดตาไปพลางก่อน ก่อนพาไปพบสัตวแพทย์ ฯลฯ

 

                         
ถ้าหมอกควันพิษมากจนหายใจติดขัด หรือน้ำตาไหลไม่หยุดทั้งคนและหมา เห็นควรย้ายออกจากเขตภัยพิบัติ ไปอาศัยที่ปลอดภัยอยู่ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก - Nan Nararat

น.สพ.เกษตร สุเตชะ แนะนำวิธีรับมือกรณีควันพิษในเมืองกรุง ดังนี้ (2)

1.ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในบ้าน
2.หมั่นอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงอาทิตย์ละครั้ง (งดใช้แชมพู) หากเป็นแมวที่ไม่ชอบอาบน้ำ ให้นำผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเอาฝุ่นออกแทน
3.เอาน้ำใส่น้ำแข็งให้กินบ้าง เพื่อให้สัตว์รู้สึกสดชื่น
4.ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ (เน้นดูดฝุ่น แทนการกวาดบ้าน)
5.รดน้ำต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้คลายออกซิเจนออกมา

น.สพ.เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน กล่าวถึงประเด็นความอันตรายของค่าฝุ่นละออง PM2.5 ว่าสัตว์ที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบมากคือ สัตว์ปีก สุนัข และแมวที่มีลักษณะหน้าสั้น คุณหมอเกษตรได้เล่าต่อว่า ผลกระทบจากมลพิษด้านฝุ่นละอองที่มีค่าความอันตรายสูงนั้น จะทำให้สัตว์ต่างๆ มีอาการป่วยได้ 

โดยสัตว์เหล่านั้นจะมีอาการน้ำมูกไหล น้ำตาไหล ไอ เบื่ออาหาร หายใจหอบ หายใจทางปาก หากสัตว์เลี้ยงข้างต้นมีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้รีบพามาพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งวิธีการรักษาจะเริ่มต้นด้วยการล้างจมูก หรือให้ยา ซึ่งขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
“หากยังนึกภาพไม่ออกว่าสภาพอากาศ ของฝุ่นละออง PM2.5 เป็นเช่นไร ก็ให้นึกภาพว่า เราสตาร์ตรถ ควันรถเข้าไปในกรงสุนัข ซึ่งมันไม่สามารถหนีไปไหนได้ ก็ต้องดมจนหายใจไม่ออกแล้วมีอาการน้ำหูน้ำตาไหล”

ส่วน ของต่างประเทศนั้น ก็จะมีวิธีการไม่แตกต่างจากเรามาก โดยประเทศจีน จะใช้วิธีการนำสัตว์เลี้ยงเข้าบ้าน ส่วนที่เม็กซิโก เขาจะพาไปต่างจังหวัดที่มีค่าอากาศบริสุทธิ์ ขณะที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่มีฟาร์มม้าแข่ง จะย้ายม้าไปเลี้ยงในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ เพราะสภาพอากาศที่เป็นมลพิษจะส่งผลต่อการวิ่งของม้า ทำให้ม้าวิ่งได้ช้าลง

เมื่อถามว่า เอาหน้ากากอนามัยของคนมาปิดให้สัตว์ได้ไหม น.สพ.เกษตร กล่าวว่า ใน ตอนนี้ประเทศสหรัฐอเมริกามีหน้ากากอนามัยสำหรับสุนัขขายแล้ว ในราคาชิ้นละ 500 บาท แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะสุนัขจะมีความรู้สึกว่ารำคาญ ไม่ยอมใส่เป็นเวลานานๆ ซึ่งบางคนนำหน้ากากอนามัยของคนใส่ เพื่อถ่ายรูปอัพลงโซเชียลฯ เพื่อเป็นกระแสเท่านั้น

อ้างอิง
(1) http://www.komchadluek.net/news/agricultural/200484
(2) https://www.thairath.co.th/content/1473066